พระราชวังบวรสถานพิมุข หรือ วังหลัง คือ วังของสมเด็จเจ้าฟ้ากรมพระอนุรักษ์เทเวศร์ กรมพระราชวังบวรสถานภิมุข ซึ่งทรงเป็นกรมพระราชวังบวรสถานภิมุขในรัชกาลที่ 1 สร้างขึ้นที่ตำบลสวนลิ้นจี่ ตั้งแต่เมื่อครั้งยังดำรงพระยศเป็นสมเด็จเจ้าฟ้ากรมหลวงอนุรักษ์เทเวศร์ ถือว่าเป็นพระราชนิเวศน์เดิมของพระองค์ท่าน พื้นที่ดังกล่าวนี้มีขอบเขตทางทิศเหนือจรดกำแพงเมืองธนบุรีเดิม ทางทิศใต้จรดฉางเกลือ
วังหลังนี้เป็นกำลังสำคัญที่จะป้องกันพระนครทางทิศตะวันตกฝ่ายเหนือจากการรุกรานของข้าศึก ถัดจากวังหลังลงไปเป็นตำบลสวนมังคุด ซึ่งเป็นบ้านเดิมของสมเด็จเจ้าฟ้ากรมพระยาเทพสุดาวดี ต่อไปเป็นบ้านปูนและบ้านขมิ้นตามลำดับ ครั้นกรมพระราชวังหลังทิวงคตแล้ว วังก็ถูกแบ่งออกเป็นตอน ๆ ตอนพระมนเทียรสถานเดิม พระชายาทองอยู่ ที่เรียกกันทั่วไปว่า "เจ้าครอกข้างใน" ประทับอยู่ ทางตอนใต้แบ่งออกเป็น 3 วัง คือ
• วังเหนือ เรียกว่า วังน้อย เป็นที่ประทับของพระสัมพันธวงศ์เธอ พระองค์เจ้าบัว กรมหมื่นนเรศร์โยธี
• วังกลาง เรียกว่า วังกลาง เป็นที่ประทับของพระสัมพันธวงศ์เธอ พระองค์เจ้าแตง กรมหลวงเสนีบริรักษ์ ต้นราชสกุลเสนีวงศ์
• วังใต้ เรียกว่า วังใหญ่ เป็นที่ประทับของพระสัมพันธวงศ์เธอ พระองค์เจ้าปาน กรมหมื่นนราเทเวศร์ ต้นราชสกุลปาลกะวงศ์
ครั้นถึงรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว เชื้อสายกรมพระราชวังหลังไม่มีกำลังที่จะดูแลรักษาวัง จึงได้ปล่อยให้ร้างอยู่อย่างนั้น โดยที่รอบ ๆ เป็นที่อยู่ของราชสกุลเสนีวงศ์หรือปาลกะวงศ์ ซึ่งเป็นเชื้อสายของกรมพระราชวังหลังในปัจจุบัน ที่เหลือกลายเป็นที่ดินราษฎรไป
คณะกรรมการสร้างโรงพยาบาลศิริราชได้ขอพระราชทานที่แปลงใต้ คือ วังกรมหมื่นนราเทเวศร์ มาเป็นพื้นที่สำหรับสร้างโรงพยาบาล ต่อมา โรงพยาบาลศิริราชได้ขยายออกไปจนเกือบเต็มวังหลัง โดยได้รับพระราชทานพื้นที่เพิ่มเติมบ้าง เวนคืนด้วยเงินงบประมาณบ้าง ส่วนเขตวังหลังส่วนเหนือซึ่งเป็นที่ของสถานีรถไฟธนบุรี ทางโรงพยาบาลศิริราชเพิ่งได้รับกรรมสิทธิ์เพิ่มเติมอีก 30 ไร่ เมื่อปี พ.ศ. 2547 เพื่อพัฒนาเป็นสถาบันการแพทย์ชั้นเลิศในเอเชียอาคเนย์
ปัจจุบัน ตำบลวังหลังได้รับการเปลี่ยนชื่อเป็น แขวงศิริราช ส่วนถนนเข้าวังหลังได้รับชื่อว่า ถนนวังหลัง
วังหลังนี้เป็นกำลังสำคัญที่จะป้องกันพระนครทางทิศตะวันตกฝ่ายเหนือจากการรุกรานของข้าศึก ถัดจากวังหลังลงไปเป็นตำบลสวนมังคุด ซึ่งเป็นบ้านเดิมของสมเด็จเจ้าฟ้ากรมพระยาเทพสุดาวดี ต่อไปเป็นบ้านปูนและบ้านขมิ้นตามลำดับ ครั้นกรมพระราชวังหลังทิวงคตแล้ว วังก็ถูกแบ่งออกเป็นตอน ๆ ตอนพระมนเทียรสถานเดิม พระชายาทองอยู่ ที่เรียกกันทั่วไปว่า "เจ้าครอกข้างใน" ประทับอยู่ ทางตอนใต้แบ่งออกเป็น 3 วัง คือ
• วังเหนือ เรียกว่า วังน้อย เป็นที่ประทับของพระสัมพันธวงศ์เธอ พระองค์เจ้าบัว กรมหมื่นนเรศร์โยธี
• วังกลาง เรียกว่า วังกลาง เป็นที่ประทับของพระสัมพันธวงศ์เธอ พระองค์เจ้าแตง กรมหลวงเสนีบริรักษ์ ต้นราชสกุลเสนีวงศ์
• วังใต้ เรียกว่า วังใหญ่ เป็นที่ประทับของพระสัมพันธวงศ์เธอ พระองค์เจ้าปาน กรมหมื่นนราเทเวศร์ ต้นราชสกุลปาลกะวงศ์
ครั้นถึงรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว เชื้อสายกรมพระราชวังหลังไม่มีกำลังที่จะดูแลรักษาวัง จึงได้ปล่อยให้ร้างอยู่อย่างนั้น โดยที่รอบ ๆ เป็นที่อยู่ของราชสกุลเสนีวงศ์หรือปาลกะวงศ์ ซึ่งเป็นเชื้อสายของกรมพระราชวังหลังในปัจจุบัน ที่เหลือกลายเป็นที่ดินราษฎรไป
คณะกรรมการสร้างโรงพยาบาลศิริราชได้ขอพระราชทานที่แปลงใต้ คือ วังกรมหมื่นนราเทเวศร์ มาเป็นพื้นที่สำหรับสร้างโรงพยาบาล ต่อมา โรงพยาบาลศิริราชได้ขยายออกไปจนเกือบเต็มวังหลัง โดยได้รับพระราชทานพื้นที่เพิ่มเติมบ้าง เวนคืนด้วยเงินงบประมาณบ้าง ส่วนเขตวังหลังส่วนเหนือซึ่งเป็นที่ของสถานีรถไฟธนบุรี ทางโรงพยาบาลศิริราชเพิ่งได้รับกรรมสิทธิ์เพิ่มเติมอีก 30 ไร่ เมื่อปี พ.ศ. 2547 เพื่อพัฒนาเป็นสถาบันการแพทย์ชั้นเลิศในเอเชียอาคเนย์
ปัจจุบัน ตำบลวังหลังได้รับการเปลี่ยนชื่อเป็น แขวงศิริราช ส่วนถนนเข้าวังหลังได้รับชื่อว่า ถนนวังหลัง
ถนนวังหลังในอดีตเป็นย่านการค้าที่สำคัญ เพราะเป็นพื้นที่ชุมชนชั้นในของฝั่งธนบุรีบริเวณวังหลัง มีตลาดสดหลายแห่งรอบบริเวณและมีสถานที่สำคัญอยู่รายรอบ เช่น โรงพยาบาลศิริราช สถานีรถไฟธนบุรี วัดอมรินทราราม มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ (ท่าพระจันทร์) สนามหลวง ท่าช้าง พระบรมมหาราชวัง มหาวิทยาลัยศิลปากร ฐานทัพเรือกรุงเทพ กรมอู่ทหารเรือ วัดระฆังโฆสิตาราม ย่านโรงหล่อพระบ้านช่างหล่อ เป็นต้น ส่วนบริเวณทางแยกพรานนกเคยมีโรงภาพยนตร์ศรีพรานนก (ภายหลังปรับปรุงและเปลี่ยนชื่อเป็น "เพชรพรานนก" เมื่อปี พ.ศ. 2522 กลายเป็นโรงภาพยนตร์ชั้นสอง ก่อนเลิกกิจการไป) อยู่ใกล้เคียงกับโรงพยาบาลตา หู คอ จมูก เดิม (ปัจจุบันย้ายไปอยู่ที่ทางแยกต่างระดับสิรินธร และเปลี่ยนมาเป็นอาคารพรานนกพลาซ่า) และที่ท่าเรือพรานนกก็เคยเป็นต้นทางของรถโดยสารประจำทางหลายสาย รวมถึงสาย 42 ก่อนที่จะมีการเปิดใช้สะพานสมเด็จพระปิ่นเกล้าในปี พ.ศ. 2516
ปัจจุบันถนนวังหลังเป็นถนนสายสำคัญที่เชื่อมต่อระหว่างถนนอิสรภาพกับถนนอรุณอมรินทร์ เป็นทางเชื่อมต่อระหว่างย่านตลาดสดบริเวณทางแยกพรานนก และย่านการค้าและสถานที่ราชการบริเวณโรงพยาบาลศิริราช ทั้งยังมีท่าเรือวังหลังและท่าเรือพรานนกซึ่งเป็นท่าเทียบเรือด่วนเจ้าพระยาที่สำคัญที่สุดในบริเวณรอบเกาะกรุงรัตนโกสินทร์ และยังมีบริการเรือข้ามฟากจากท่าเรือวังหลังไปยังท่าพระจันทร์และท่าช้างวังหลวง ซึ่งอยู่ใกล้สนามหลวงและพระบรมมหาราชวัง และเป็นถนนที่มีการจราจรคับคั่งตลอดทั้งวันโดยเฉพาะในชั่วโมงเร่งด่วนทั้งเช้าและเย็น ดังนั้น ถนนวังหลังจึงมีบริการรถสามล้อเครื่อง รถสองแถว รถสี่ล้อเล็ก และรถตู้ ให้บริการจากท่าเรือพรานนกหลายเส้นทาง
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น